21 ธันวาคม 2012

โลกยัีงคงปลอดภัยดี ไปอีกคราหนึ่ง เริ่มนับปฏิทินมายันรอบที่ 13

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

16 มิย.พระจันทร์สีเลือด




16 มิ.ย.นี้จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวง ครั้งแรกในรอบ 4 ปี กินเวลาเกิดปรากฏการณ์ทั้งสิ้น 3.39 ชั่วโมง

วันที่ 16 มิ.ย.นี้จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็ม ดวง กินเวลาเกิดปรากฏการณ์ทั้งสิ้น 3.39 ชั่วโมง นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยาวนานและสามารถเฝ้าชมได้ตลอดทั้งเหตุการณ์หาก ท้องฟ้าเป็นใจ ไม่มีเมฆฝนบดบัง

ปรากฏการณ์ครั้งนี้เริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป โดย 01.22 น. ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามืดบางส่วน และการเกิดคราสในเวลา 02.22 น. ดวงจันทร์เคลื่อนที่เข้าสู่กึ่งกลางเงามืดของโลก ยาวนานกว่า 1.40 ชั่วโมง และสิ้นสุดปรากฏการณ์ในเวลา 04.00 น.โดยประมาณ

ความพิเศษอยู่ที่ดวงจันทร์ปรากฏสีแดงส้มหรือแดงอิฐ จากการหักเหของแสงสีขาว ทำให้สีแดง ส้ม ตกกระทบบนพื้นผิวดวงจันทร์ และจันทรุปราคาครั้งนี้มีโอกาสเห็นทางช้างเผือกในคืนวันเพ็ญ ขณะที่ดวงจันทร์ถูกเงาโลกบดบังทั้งดวง

ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวว่า สดร.เตรียมพร้อมถ่ายทอดสดปรากฏการณ์จันทรุปราคาในคืนวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ผ่านเว็บไซต์ www.narit.or.th โดยได้รับความร่วมมือจากหอดูดาวภูมิภาคทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ หอดูดาวภูมิภาคเชียงใหม่ที่ละติจูด 18 องศา หอดูดาวภูมิภาคฉะเชิงเทราที่ละติจูด 13 องศา และหอดูดาวภูมิภาคสงขลาที่ละติจูด 7 องศา

"เชื่อว่าจะไม่เกิดฝนพร้อมกันทั้ง 3 จุดถ่ายทอด จนทำให้ไม่สามารถสังเกตและบันทึกภาพปรากฏการณ์จันทรุปราคาผ่านกล้องดูดาวครั้งนี้ได้เลย" ดร.ศรัณย์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ในคืนวันที่ 16 มิ.ย. ยังจะเห็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์เคลื่อน ที่ไปบังดาวฤกษ์ที่ชื่อว่า 51 โอฟีอุชชี (Ophiuchi) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์สีขาวอยู่นอกระบบสุริยะ มีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์มาก แต่อยู่ไกลจากโลกถึง 446.35 ปีแสง โดยจะสังเกตเห็นดาวฤกษ์ดวงนี้เริ่มหายเข้าไปหลังดวงจันทร์สีแดงอิฐ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่หาดูได้ไม่ง่ายนัก

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์จันทรุปราคาหรือจันทรคราส เกิดขึ้นจากที่ดวงอาทิตย์ โลกและดวงจันทร์ โคจรมาเรียงตัวอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งเกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง แต่ใช่ว่าจะเห็นได้จากทุกมุมโลก เช่นครั้งนี้ที่เห็นได้ชัดเจนเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย แอฟริกาและตะวันออกกลาง ขณะที่อเมริกาอาจต้องรอลุ้นชมจันทรุปราคาอีก ครั้งในวันที่ 10 ธ.ค.2554 คาดว่าจะเห็นแสงแรกจากกล้องดูดาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร ของหอดูดาวแห่งชาติบนดอยอินทนนท์ ซึ่งคนไทยจะได้เฝ้าชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้อีกครั้งหนึ่ง

ข้อมูลจาก http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/science/20110607/394303/news.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น