21 ธันวาคม 2012

โลกยัีงคงปลอดภัยดี ไปอีกคราหนึ่ง เริ่มนับปฏิทินมายันรอบที่ 13

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

แผ่นดินไหวเม็กซิโกรุนแรง 7.6 ริคเตอร์










สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เวลาประมาณ 12.00 น. ตรงกับเวลาประเทศไทยประมาณ 01.00 น.  ของวันที่ 21 มี.ค. ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 7.6 ริคเตอร์ สร้างแรงสั่นสะเทือนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก เป็นเวลานานหลายนาที และยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนรุนแรงได้ไกลถึงเมืองหลวงกรุงเม็กซิโกซิตี้ แม้อยู่ห่างออกมาหลายร้อยไมล์ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกวิ่งหนีลงมาบนถนน

นายมาร์เซโล อีบราร์ด นายกเทศมนตรีกรุงเม็กซิโกซิตี้ ยืนยันว่า แรงสั่นสะเทือนรุนแรงมาถึงเมืองหลวงของเม็กซิโกด้วย ระบบน้ำประปาและการให้บริการสำคัญอื่น ๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่มีคนตกใจพากันเผ่นลงมายืนกันตามถนนเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีฟิลิเป้ คัลเดรอน แห่งเม็กซิโก แถลงว่ายังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง แต่ระบบโทรศัพท์ในเมืองขัดข้องเท่านั้น

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลังเที่ยงวันของวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในรัฐโออาซากา และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 17.5 กม. จุดศูนย์กลางยังใกล้กับเมืองท่องเที่ยวอย่าง อคาปูโก ของเม็กซิโกด้วย แล้วยังห่างจากเมืองโอเมเทเปคในรัฐเกร์เรโรประมาณ 25 กม.เท่านั้น เบื้องต้นสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.9 ริคเตอร์ แต่ต่อมาได้ประกาศลดระดับลงเหลือ 7.6 ริคเตอร์

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.2 ริคเตอร์ ในเขตภูมิภาคปาปัวของอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 02.56 น.ของวันที่ 21 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึก 66.9 กม. และห่างจากจังหวัดอิเรียนจายาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 154 กม. ไม่มีประกาศเตือนภัยสึนามิแต่อย่างใด

ข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/world/18203

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ระทึกกรุงถนนพระราม4ยุบตัวเป็นหลุมยักษ์กว้าง5ม.


ภาพ ธัญธร ทีวีไทย
เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (18 มี.ค.)  ขณะที่ พ.ต.ท.นิพนธ์ กุลชฤทธิ์ สว.จร.สน.ทุ่งมหาเมฆ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้รับแจ้งทางวิทยุว่า ถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้า บริเวณใกล้ไฟแดงแยกวิทยุ ใต้สะพานไทย-เบลเยี่ยม เยื้องสถานีรถไฟใต้ดินลุมพินี(ประตู 2) แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พื้นถนนเกิดการยุบตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก. หน่วยบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร เขตทุ่งมหาเมฆ กว่า 20 คน

ที่เกิดเหตุ เป็นถนน 3 เลน พบที่ช่องทางเดินรถช่องกลางและขวาสุด ถนนยุบตัวเป็นแนวกว้าง 5 เมตร ยาว 3 เมตร และลึกลงไป 2 เมตร โดยภายในหลุมที่ถนนยุบตัวลงไปนั้น สังเกตพบท่อเหล็กสีดำขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เมตรอยู่ภายใน และข้างใต้ทราบว่าเป็นชานชาลาของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินีด้วย เจ้าหน้าที่จึงรีบกั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย และปิดการจราจร 2 ช่องทาง อนุญาตให้เดินรถได้เพียงช่องทางซ้ายสุดเท่านั้น ทำให้การจราจรบนถนนพระราม 4 ติดยาวหลายกิโลเมตร มีท้ายแถวอยู่บริเวณตลาดคลองเตย


จากการสอบสวนนายเรืองยุทธ์ มุสิกพันธ์ จยย.รับจ้างวินหน้าอาคารคิวเฮ้าส์ลุมพินี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างขับขี่รถจยย. ภายหลังจากส่งผู้โดยสาร กำลังจะกลับมาเข้าวินตามปกติ ระหว่างนั้นได้สังเกตเห็นรถบรรทุกสิบล้อ จำสีและทะเบียนรถไม่ได้ จอดติดสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกดังกล่าว และมีรถยนต์เก๋งซึ่งจำลักษณะรถไม่ได้เช่นกัน จอดต่อท้ายอยู่อีก 1 คัน ทันทีที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นไฟเขียว รถทั้งสองจึงเคลื่อนตัวออกไป ทันใดนั้นได้ยินเสียงสนั่นหวั่นไหวมาจากบริเวณพื้นถนน เมื่อมองไปก็พบว่าถนนบริเวณช่องทางกลางและขวาสุด เริ่มค่อยๆยุบตัวลงอย่างช้าๆ จนรถยนต์เก๋งที่ต่อท้ายรถบรรทุกสิบล้อ เกือบตกหลุมอย่างน่าหวาดเสียว โชคดีที่รถยนต์เก๋งเร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว ทำให้รอดพ้นการตกลงไปในหลุมได้ในที่สุด เบื้องต้นอยู่ระหว่างเร่งประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งมาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขณะที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ ผอ.สำนักการโยธาและผอ.เขตปทุมวัน หลังได้รับรายงานกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของถนนยุบตัวในครั้งนี้ต่อไป

ข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/17850

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

พายุสุริยะพัดผ่านโลก รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี







สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดการระเบิดพลังงานร้อนระอุ 2 ครั้ง บนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการแผ่รังสีและพายุแม่เหล็กโลก ส่งผลกระทบต่อโลกรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี
     โดยพายุสุริยะครั้งนี้ จะพัดผ่านโลกในช่วงเช้าวันนี้(พฤหัสบดี) ตามเวลาในสหรัฐ หรือเวลาประมาณ 13.00 ถึง 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย


     ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ได้ออกประกาศเตือนถึงคลื่นรบกวนครั้งนี้ ว่า รังสีที่แผ่ออกมาจากพายุสุริยะ จะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่อาจส่งผลรบกวนและทำให้เกิดการขัดข้องของเครือข่ายพลังงาน ระบบจีพีเอส ดาวเทียม และสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกหรือในประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ดังนั้นเครื่องบินที่จะบินผ่านบริเวณดังกล่าวจึงควรเปลี่ยนเส้นทางการบิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
     นอกจากนี้ พายุสุริยะดังกล่าวยังอาจก่อให้เกิดปรากฎการณ์แสงเหนือ ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่าในบริเวณภูมิภาคที่อยู่ในละติจูดสูง หากในช่วงเวลาที่เกิดพายุท้องฟ้าโปร่ง
     ตามปกติพายุสุริยะจะเกิดขึ้นบ่อยเมื่อมีจุดบอดในดวงอาทิตย์มาก โดยอาจเกิดทุกวัน หรือวันละหลายครั้ง แต่หากเป็นพายุสุริยะที่ความรุนแรงมาก จะเกิดในรอบเฉลี่ยทุกๆ 11 ปี
     ทั้งนี้ เมื่อปี 2532 ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา พายุสุริยะส่งผลให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดของเมืองดับนานกว่า 9 ชั่วโมง และยังส่งผลกระทบไปถึงตอนเหนือของสหรัฐฯและสวีเดน ในขณะที่เมื่อปี 2515 พายุสุริยะครั้งรุนแรงส่งผลให้เครือข่ายระบบโทรศัพท์ทั้งหมดของรัฐอิลลินอยส์ไม่สามารถใช้งานได้




วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

น้ำท่วมในออสเตรเลียยังวิกฤติ




  





หลายรัฐในออสเตรเลียฝนตกหนักติดต่อกัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านทางการเร่งอพยพปชช.หลายพันคน
          5 มี.ค.55 วิกฤติน้ำท่วมในออสเตรเลีย ทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันนี้ จากการที่ประชาชนหลายร้อยคนจำต้องหนีออกจากบ้านเรือนในพื้นที่เกษตรกรรมอุดมสมบูรณ์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศส่วนรัฐทางตะวันออกของประเทศ ได้แก่ ควีนส์แลนด์ , นิวเซาท์เวลส์ และวิคตอเรีย ต้องเผชิญฝนหนักติดต่อกัน ทำให้น้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ถนนและสะพานหลายแห่งไม่สามารถใช้การได้
          เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน ได้แสดงความห่วงใยภูมิภาคภูมิภาคริฟเวอริน่า ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่แม่น้ำมูร์รัมบิดจี้ กำลังไหลทะลักตลิ่งในบางพื้นที่ และไหลเข้าท่วมบ้านเรือน
          หลายหลังในบริเวณใกล้กับ แว็กก้า แว็กก้า ซึ่งถือเป็นสถานการณ์อันตรายทั่วภูมิภาค ทำให้ต้องสั่งอพยพยประชาชนอีกกว่า 1,000 คน
          บ้านเรือนและธุรกิจราว 30 หลัง ในเมืองกันดาไก ถูกน้ำท่วมในขณะที่กระแสน้ำเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อปี 2553 นอกจากนี้ ยังพบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายอยู่ในระดับ
          อันตราย และอีกกว่า 4,600 คน ได้รับคำสั่งอพยพออกจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีผู้ที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมราว 2,500 คน
          ทางการยังได้เตือนไม่ให้ประชาชนขับรถฝ่ากระแสน้ำ หลังจากมีคนได้รับการช่วยเหลือจากรถยนต์กว่า 30 คน รวมทั้งผู้ใหญ่ 2 คน และเด็กอีก 3 คน ที่ติดอยู่ในรถที่แว็กก้า แว็กก้า และมีชายอีกคนหนึ่งเสียชีวิต หลังจากพยายามขับรถฝ่ากระแสน้ำ แต่ผู้โดยสารอีก 2 คน ที่อยู่ในรถ ได้รับการช่วยเหลือไปได้อย่างปลอดภัย
          ยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น และล่าสุดมีชายคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะรถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดออกจากถนน ในเมืองเกลนวู้ด ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ ตำรวจระบุว่า ไม่สามารถยืนยันรายงานที่ว่า มีรถยนต์อีกคันหนึ่งถูกน้ำพัดพาไปเช่นกัน เมืองเล็กๆ อีกหลายเมืองในรัฐวิคตอเรีย ก็กำลังเผชิญน้ำท่วมสูงเช่นกัน

          ที่มา: http://www.komchadluek.net

วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

“ทอร์นาโด” ถล่มอเมริกา


ทอร์นาโดถล่มรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เสียชีวิต 9 ศพ รัฐมิสซูรี่ประกาศเตือนฉุกเฉินต่อทันที
วันนี้ ( 1 มี.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า พายุฤดูหนาวรุนแรงก่อตัวเกิดเป็นทอร์นาโดหลายลูก พัดเข้าถล่มหลายรัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 9 ศพ และบาดเจ็บอีกนับร้อยรายโดยทอร์นาโดที่พัดเข้าโจมตีเมืองแฮร์ริสเบิร์ก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประมาณ 4.30 น. ( 17.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) มีความเร็วลมอยู่ที่ 170 ไมล์ ( 270 กม./ชม. ) ส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 300 หลัง และอาคารบริษัทอีก 25 แห่ง เสียหายราบเป็นหน้ากลอง

นางแพท ควินน์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งลงพื้นที่เพื่อสั่งการเจ้าหน้าที่ และตรวจสอบความเสียหายทันที เช่นเดียวกับนายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิซซูรีที่ต้องออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังทอร์นาโดหลายลูกพัดถล่มทางตอนใต้ของรัฐ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ศพ

ตั้งแต่วันอังคารที่ 28 ก.พ. ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯได้รับรายงานการเกิดทอร์นาโด 22 ลูก ใน 6 รัฐ ได้แก่ เนบราสกา แคนซัส มิซซูรี อิลลินอยส์ อินเดียนา และ เคนทักกี อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า อาจเกิดพายุฤดูหนาวรุนแรงในรัฐอลาบามา จอร์เจีย เคนทักกี มิซซิสซิปปี้ นอร์ทแคโรไลนา และเทนเนสซี ก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวไปยังชายฝั่งตะวันออก




ทั้งนี้ ในปี 2011 ทอร์นาโดได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปกว่า 545 ศพ ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติจากพายุที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1936 โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ทอร์นาโดนับสิบลูกได้พัดเข้าถล่ม 5 รัฐในสหรัฐฯ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมกันสูงถึง 314 ศพ และอีกหนึ่งเดือนถัดมา ในวันที่ 22 พ.ค. ทอร์นาโดได้พัดเข้าถล่มเมือง จอพลิน รัฐมิซซูรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 159 ศพ  และในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯต้องรับมือกับทอร์นาโดมากถึง 95 ลูก แต่มีผู้เสียชีวิตเพียง 2 ศพ